คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นำโดย นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้แก่ นางประกายรัตน์  ต้นธีรวงศ์  นางเตือนใจ ดีเทศน์ นายชาติชาย สุทธิกลม นายสุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ได้เข้าพบนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อหารือเรื่องการขับเคลื่อนหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (UN Guiding Principle on Business and Human Rights – UNGPs) ในประเทศไทย   เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2560  ณ ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม
          หลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ประกอบด้วย  3 เสาหลัก ได้แก่ เสาหลักที่ 1 การคุ้มครอง (Protect) กำหนดให้รัฐคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประชาชนไม่ให้ถูกละเมิดโดยภาคธุรกิจ และเสาหลักที่ 2 การเคารพ (Respect) กำหนดให้ภาคธุรกิจเคารพในสิทธิมนุษยชน และเสาหลักที่ 3 การเยียวยา (Remedy) ซึ่งหมายความว่า หากประชาชนได้รับผลกระทบจากการประกอบธุรกิจ ประชาชนต้องได้รับการเยียวยาอย่างรวดเร็ว
           ด้วยเห็นถึงความสำคัญของหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงได้วางยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนหลักการชี้แนะฯ ไว้ในหลายมิติ  เช่น การจัดทำโครงการนำร่องในการนำหลักการชี้แนะดังกล่าวมาให้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยว และการโรงแรมใช้ในโรงแรมแถบอันดามัน และที่สำคัญ  คือ การจัดสัมมนาวิชาการ “การเผยแพร่และขับเคลื่อนหลักการชี้แนะ เรื่อง ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ในประเทศไทย” โดยมีเจ้าภาพในการร่วมจัดหลายองค์กร และหนึ่งในองค์กรที่สำคัญ คือ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะเป็นผู้จัดทำแผนปฏิบัติการชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน การสัมมนานี้กำหนดจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคม 2560 ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ  ในงานนอกจากจะมีการสัมมนาในเรื่อง หลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติแล้ว จะมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)  กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแสดงเจตจำนงอันแน่วแน่ในการขับเคลื่อนหลักการชี้แนะดังกล่าวให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทย
          นอกจากนี้ กสม. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้หารือเกี่ยวกับการประสานความร่วมมือด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ และสิทธิมนุษยชนของประชาชน  โดยสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะพัฒนากลไกการประสานงานระหว่างกันที่มีอยู่แล้วให้สามารถเฝ้าระวังสถานการณ์  ขับเคลื่อนงานด้านสิทธิมนุษยชน ตลอดจนติดตามและผลักดันข้อเสนอแนะต่างๆ ของ กสม. ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพประสิทธิผลยิ่งขึ้นต่อไป