ข่าวแจก
  เรื่อง สิทธิพลเมืองกรณีการตรวจค้นตัวผู้หญิงและกลุ่มหลากหลายทางเพศตามมาตรฐานสากล

           ตามที่นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในฐานะประธานอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมือง และประธานอนุกรรมการด้านสิทธิสตรี ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) พร้อมคณะ ประชุมร่วมกับนายชาญเชาวน์  ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม โดยมีหัวข้อหารือเกี่ยวกับสิทธิพลเมืองในประเด็นต่างๆ  อาทิ  ข้อปฏิบัติต่อผู้ต้องหา หรือนักโทษหญิง และกลุ่มหลากหลายทางเพศ  การเข้าถึงความยุติธรรมของผู้หญิงกลุ่มเฉพาะ  ความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย  พ.ศ. ....  การให้สัตยาบันอนุสัญญาฯ  การปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการต่อต้านการทรมาน  การดูแลนักโทษตามมาตรฐานสากล  การนิยามนักโทษการเมือง และนักโทษทางความคิด  ณ ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม ๒ ชั้น ๘ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์  ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ  เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๙ นั้น
          นางอังคณาฯ เปิดเผยว่า  จากการหารือข้อราชการดังกล่าวถือเป็นนิมิตรหมายอันดีที่กระทรวงยุติธรรมซึ่งเป็นกระทรวงหลักที่มีหน้าที่ในการดูแล  คุ้มครอง  ส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน  ได้คำนึงถึงหลักการสิทธิมนุษยชนในการดำเนินงาน  ทั้งนี้ในส่วนของการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และการคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้หญิงนั้น ทราบว่าศาลอาญาได้จัดสรรงบประมาณและจัดหาสถานที่ซึ่งเหมาะสมให้ผู้หญิงที่อยู่ระหว่างการรอการประกันตัวเป็นการเฉพาะ รวมถึงกระทรวงยุติธรรมมีความพยายามจะกำกับดูแลการควบคุมตัวผู้ต้องขังในเรือนจำให้สอดคล้องกับ Bangkok Rules และ ข้อกำหนดขั้นต่ำขององค์การสหประชาชาติในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง (United Nations Standard Minimum Rules for the Treatments of Prisoners) (ข้อกำหนดแมนเดลา – Mandela Rules) นอกจากนั้นกระทรวงยุติธรรมยังมีความพยายามดำเนินการในการควบคุมตัวประชาชนเพื่อให้เป็นการแก้ไข เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม แทนที่จะเป็นการแก้แค้น ทดแทน
          “ในการตรวจค้นซึ่งล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว การค้นแบบถอดเสื้อผ้าและการค้นตามซอกหลืบต่างๆของร่างกาย  เจ้าหน้าที่ต้องกระทำในลักษณะที่เคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ถูกค้น รวมถึงความได้สัดส่วนความชอบด้วยกฎหมาย  และตามความจำเป็นอย่างยิ่งยวดเท่านั้น”  นางอังคณา  นีละไพจิตร  กล่าว
 

คณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมือง  และ
คณะอนุกรรมการด้านสิทธิสตรี 
๒๗ เมษายน  ๒๕๕๙