Sorry, your browser does not support JavaScript!
-
A A A
+
  • youtube
  • facebook
  • English Thai
ผลการดำเนินงาน View : 262
ประธาน กสม. กล่าวรำลึก 14 ตุลา หวังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นต้องนำสู่ประชาธิปไตย บนหลักนิติธรรม - สิทธิมนุษยชน เน้นระบบที่ตรวจสอบได้และคุ้มครองประโยชน์ประชาชนทุกกลุ่ม อย่างเสมอภาค
ประธาน กสม. กล่าวรำลึก ๑๔ ตุลา หวังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นต้องนำสู่ประชาธิปไตย
บนหลักนิติธรรม - สิทธิมนุษยชน  เน้นระบบที่ตรวจสอบได้และคุ้มครองประโยชน์ประชาชนทุกกลุ่ม
อย่างเสมอภาค
            เมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๑ นายวัส  ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เข้าร่วมงานรำลึก ๑๔ ตุลา ประจำปี ๒๕๖๑ จัดโดยเครือข่ายภาคประชาชนและมูลนิธิ ๑๔ ตุลา ณ อนุสรณ์สถาน ๑๔ ตุลา ๑๖ (แยกคอกวัว) โดยได้กล่าวสดุดีเนื่องในวันรำลึก  ๑๔ ตุลาคม ประจำปี ๒๕๖๑ ว่าหลักการประชาธิปไตย  เป็นพื้นฐานอันสำคัญของสิทธิมนุษยชน  หากไม่มีประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนก็จะไม่สมบูรณ์  เพราะแท้ที่จริงแล้วสิทธิมนุษยชนกับประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกันอยู่อย่างแยกจากกันไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค การมีสิทธิขั้นพื้นฐาน ทั้งสิทธิพลเมือง สิทธิทางการเมือง สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ซึ่งรวมทั้งการสามารถมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม ตั้งแต่เกิดจนตายอย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกๆ คน 
            การเคลื่อนไปของเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ที่หมุนไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบันนั้นได้กระทบต่อการปกครองแบบประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก ปัจจัยต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อประชาธิปไตย ทำให้ประชาธิปไตยได้คลาดเคลื่อนไปจากหลักการประชาธิปไตยที่เคยเป็น ประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้นต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม การเลือกตั้งต้องอยู่บนเจตจำนงเสรีที่แท้จริงของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจ  โดยที่ทุกคนในสังคมมีความเคารพซึ่งกันและกัน มีเหตุผลและยึดมั่นในผลประโยชน์ของส่วนรวม
            ประชาธิปไตยในยุคใหม่มีผู้เล่นมากมายที่เข้ามามีบทบาท  โดยเฉพาะผู้เล่นจากระบบเศรษฐกิจแบบเสรีทุนนิยมที่ปรากฏขึ้นควบคู่กับการดำเนินการทางการเมืองในรูปลักษณ์ของประชาธิปไตย แต่ธรรมชาติของทุนนิยมนั้นย่อมต้องการการผูกขาด การแสวงหาอภิสิทธิ์ เมื่อทุนนิยมมีความสำคัญมากขึ้นในสังคมไทย  ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในค่านิยมและแนวคิดทางการเมือง ประชาธิปไตยกลายเป็นเรื่องของเสียงข้างมากแบบสุดโต่ง   แอบอิงผลประโยชน์แฝง และการผูกขาดกลายเป็นธุรกิจการเมือง  จนทำให้ประชาธิปไตยของเรายังต้องล้มลุกคลุกคลาน กลายเป็นเผด็จการทุนนิยมในคราบประชาธิปไตย และเกิดการคอรัปชั่นที่ระบาดไปทั่ว ได้เปิดโอกาสให้อำนาจพิเศษเข้ามาแทรกแซง ทำให้พัฒนาการของประชาธิปไตยต้องสะดุดลงเป็นพักๆ โดยเฉพาะการที่สังคมทันสมัยมากขึ้น เร็วขึ้น มีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้การเรียนรู้เพื่อต่อสู้กับปัญหาเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหยุดยั้งอยู่กับที่ได้ ต้องมีการพัฒนาให้ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ
            หลักการที่เสมือนเป็นแกนของความรุ่งเรืองและพัฒนาของสังคมประชาธิปไตยของประเทศไทยที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นนั้น จะต้องประกอบด้วยเสาหลักสำคัญสามประการ คือ หลักประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งทั้งสามเสาหลักนี้ไม่สามารถจะแยกจากกันได้ เนื่องจากมีผลเกื้อกูลกันอยู่อย่างแยกจากกันไม่ได้  การทำให้ผู้คนในสังคมมีความพร้อมในทุกๆด้าน ก็จะช่วยทำให้ผู้คนทั้งหลายสามารถเป็นผู้ทรงสิทธิอย่างแท้จริง  สามารถปกป้องสิทธิของตัวเองได้อย่างมีศักดิ์ศรี
            ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  กล่าวต่อว่า  งานด้านประชาธิปไตยจึงไม่ได้จบอยู่เพียงแค่การมีการเลือกตั้งเท่านั้น แต่ต้องเป็นประชาธิปไตยที่เกิดจากเนื้อแท้ที่มาจากประชาชน  ตรวจสอบได้ และต้องครอบคลุมประโยชน์สุขให้เกิดขึ้นในชนทุกหมู่เหล่าอย่างเท่าเทียมและมีศักดิ์ศรี แม้จะเป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิเลือกตั้งก็จะต้องได้รับความใส่ใจอย่างเสมอภาค โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชนที่ต้องไม่มีการทิ้งผู้ใดไว้เบื้องหลัง การตรากฎหมายและการบังคับใช้ต้องตั้งอยู่บนหลักนิติธรรม ต้องไม่มีการนำนิติวิธีมาใช้คุกคามประชาชน โดยเฉพาะเหล่านักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน มักจะโดนคุกคามอยู่เป็นประจำ ประชาชนทุกคนจะต้องสามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้อย่างเท่าเทียม จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ในหลายกรณีผู้มีอำนาจได้ใช้นิติวิธีสร้างความชอบธรรมให้ตนเอง มีการคุกคามประชาชนจนเกิดความวุ่นวายที่น่าแปลกที่เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นจากทั้งผู้ที่ได้อำนาจมาด้วยวิธีพิเศษและผู้ที่ได้อำนาจมาจาการเลือกตั้ง โดยไม่ได้สำเหนียกว่าการใช้นิติวิธีเทียมที่ไม่ยืนอยู่บนหลักนิติธรรมอย่างแท้จริงย่อมไม่ชอบธรรม ซึ่งได้ส่งผลกระทบระยะยาวที่ทำให้อำนาจรัฐบาลนั้นๆ เสื่อมถอยลงจนเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบที่ขยายวงกว้างจนน่ากลัวอย่างที่พวกเราเพิ่งประสบมาด้วยตนเองเมื่อไม่นานมานี้  เราอาจโชคดีที่ได้รอดพ้นวิกฤตการณ์นั้นมาได้ แต่ใครจะประกันได้ว่าเราจะมีโชคเช่นนั้นตลอดไป
            “การเลือกตั้งที่กำลังใกล้เข้ามานั้น เป็นงานหนักที่ทุกคนทุกภาคส่วนจะต้องให้ความใส่ใจ การประกันความยั่งยืนของประชาธิปไตยและความผาสุกของประชาชน โดยจะต้องให้ความสำคัญกับการประสานกันระหว่างสามเสาหลักสำคัญดังกล่าว คือ หลักประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และหลักการสิทธิมนุษยชนไปพร้อมๆกัน  การเดินหน้าประชาธิปไตย จะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากความเสียสละของเหล่าวีรชน ๑๔ ตุลาที่ได้ร่วมกันต่อสู้และเสียสละเลือดเนื้อในวันนั้น รวมทั้งผู้ที่เห็นคุณค่าในประชาธิปไตยที่ได้เสียสละและสืบสานการต่อสู้ตลอดมา” 
ตามเอกสารแนบ

15/10/2561

© 2015 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเเห่งชาติ. All Right Reserved.
นโยบายเว็ปไซต์ | นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์.

  ipv6 ready 
จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด
5397993
คน
จำนวนผู้เข้าชมวันนี้
226
คน