Sorry, your browser does not support JavaScript!
-
A A A
+
  • youtube
  • facebook
  • English Thai
ผลการดำเนินงาน View : 270
ประธาน กสม .ชี้เหตุผลรีเซ็ตของ ”มีชัย ฤชุพันธุ์” ไม่ถูกต้อง วอนผู้มีอำนาจเขียน พรป.กสม.เปิดใจให้กว้าง พิจารณาให้รอบคอบ และให้ความเป็นธรรมแก่ผู้อื่นด้วย
          นายวัส  ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.) ว่าด้วย กสม. ที่ให้ประธาน กสม. และ กสม.ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนวันที่ พรป.กสม.ใช้บังคับ พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ พรป.กสม.ใช้บังคับ แต่ให้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า กสม.ที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่

          สำหรับเหตุผลของนายมีชัย  ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่บอกว่า ต้องรีเซ็ต กสม.เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล ที่ประเทศไทยถูกทักท้วงว่ามีปัญหาว่าด้วยกระบวนการได้มาซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักการว่าด้วยสถานะและหน้าที่ของสถาบันแห่งชาติเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (หลักการปารีส)  ซึ่งตรงกับเหตุผลในร่าง พรป.กสม.ของ กรธ.ที่ระบุว่า กสม.ชุดปัจจุบันยังไม่สอดคล้องกับหลักการสากลเกี่ยวกับกระบวนการได้มา ซึ่ง กสม.จะต้องมาจากความหลากหลายของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องนั้น ประธาน กสม.กล่าวว่า เป็นเหตุผลที่ไม่ถูกต้อง เพราะหลักการปารีสไม่ได้กำหนดกระบวนการสรรหาว่าต้องมีกระบวนการเช่นนั้น

          “กฎเกณฑ์ตามร่าง พรป.กสม.ของ กรธ.ดังกล่าว ไม่มีปรากฏในหลักการปารีส  ประธาน กสม.กล่าว

          ประธาน กสม.ย้ำอีกว่า หลักการปารีสกำหนดแต่เพียงว่า การกำหนดองค์ประกอบของสถาบันแห่งชาติควรประกอบด้วยสมาชิกของสถาบัน ไม่ว่าจะด้วยวิธีการเลือกตั้งหรือด้วยวิธีอื่นใด จะต้องเป็นกระบวนการที่มีหลักประกันที่ทำให้มั่นใจได้ว่าสถาบันจะเป็นตัวแทนที่หลากหลายของพลังทางสังคม หรือภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจที่จะทำให้สถาบันได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีกับตัวแทนของกลุ่มต่างๆ หรือโดยผ่านการเข้าร่วมของตัวแทนกลุ่มต่างๆ เช่น องค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ รวมทั้งองค์กรวิชาชีพต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมทนายความ แพทย์ สื่อมวลชน

          นอกจากนั้นก็เป็นกระแสแนวคิดทางปรัชญา ศาสนา รวมทั้งมหาวิทยาลัยและผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณสมบัติเหมาะสม รัฐสภา และหน่วยงานต่างๆของรัฐ ซึ่งควรมีส่วนร่วมในการพิจารณาที่มีหน้าที่เพียงการให้คำแนะนำเท่านั้น

          ประธาน กสม.กล่าวว่า กรธ.คิดร่าง พรป.กสม. ดังกล่าวมาได้อย่างไร เพราะเป็นการกำหนดที่เกินเลยจากหลักการปารีสค่อนข้างมาก ไม่ยืดหยุ่น และสรรหามาได้ยาก

          “รัฐธรรมนูญ 2560 ที่ กรธ. สร้างมาได้กำหนดคุณสมบัติของคณะกรรมการสรรหาไว้ระดับเทพแล้ว ยังกำหนดคุณสมบัติของบุคคลที่จะได้รับการสรรหามาเป็น กสม. ให้เกินเลยไปจากมาตรฐานสากล ซึ่งจะกลายเป็นปัญหายุ่งยากในการสรรหาทั่วไปและสรรหาซ่อมในอนาคตต่อไปได้” ประธานกสม.กล่าว

          ส่วนประเด็นที่อ้างว่าการทำงานของ กสม.มีปัญหา หรือที่มาของ กสม.ชุดปัจจุบันขาดความหลากหลายจึงต้องรีเซ็ต กสม.ทั้งชุดนั้น ประธาน กสม. เห็นว่า ไม่ถูกต้องทั้งในข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง เพราะ กสม. ชุดปัจจุบัน ซึ่งเป็นชุดที่ 3 นี้ มีผลงานออกมาทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศมากขึ้นและต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งองค์ประกอบของกสม.ชุดปัจจุบันก็มีความหลากหลาย มีทั้งอดีตข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับงานสิทธิมนุษยชน ผู้พิพากษา นักจิตอาสา และภาคประชาสังคม

          ประธาน กสม. กล่าวอีกว่า กสม.ชุ ดปัจจุบันสามารถทำงานให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างชัดแจ้งทั้งด้านการคุ้มครองสิทธิฯและด้านส่งเสริมสิทธิฯ

          “เมื่อเร็วๆนี้นายกรัฐมนตรียังได้มาปาฐกถาพิเศษในหัวข้อหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติกับการสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและสังคม ที่ กสม. ร่วมกับ 8 องค์กรพันธมิตรจัดการสัมมนาวิชาการเรื่อง การเผยแพร่และขับเคลื่อนหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติในประเทศไทย ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก จนเป็นที่ชื่นชมทั้งภายในและระหว่างประเทศอันเป็นผลดีต่อประเทศโดยรวม” ประธาน กสม. ย้ำ

          นอกจากนี้ประธาน กสม. กล่าวอีกว่า การรีเซ็ตองค์กรอิสระใดๆจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อมีเหตุจำเป็นโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ รวมทั้งต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมต่อผู้ที่อาสาเข้ามาทำงานที่ต้องละทิ้งงานเดิมมาทำงานให้องค์กรอิสระ

          “งานของ กสม. น่าจะมีผลกระทบกระเทือนแน่นอน เพราะโครงการต่างๆกำลังเดินไปด้วยดี จะหยุดชะงักทันที” ประธาน กสม. ตอบคำถามที่ว่าหาก กสม.ถูกรีเซ็ตจะกระทบต่อการทำงานหรือไม่

          ประธาน กสม. ชี้ให้เห็นทางออกของเรื่องนี้ที่จะทำได้มากที่สุดคือ เขียนในบทเฉพาะกาลของ พรป.องค์กรอิสระให้ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระพ้นจากตำแหน่งเฉพาะรายที่เป็นบุคคลผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายใหม่ ไม่ใช่ให้พ้นไปทั้งชุด เพราะไม่เป็นธรรมต่อผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระนั้น

          ประธาน กสม. กล่าวย้ำในที่สุดว่า รัฐธรรมนูญ 2560 มีปัญหาทั้งในด้านหลักการเขียนและการนำไปใช้ในทางปฏิบัติ จึงขอให้ผู้มีอำนาจในการเขียน พรป.กสม.เปิดใจให้กว้าง พิจารณาให้รอบคอบ และให้ความเป็นธรรมแก่ผู้อื่น ควรคิดแก้ไขปัญหาอื่นๆที่รอการแก้ไขอยู่ก่อนจะมาคิดรีเซ็ตองค์กรอิสระให้เกิดปัญหาเพิ่มไปอีก.

          ลิงค์ข่าวที่เกี่ยวข้อง
          - เว็บไซต์คมชัดลึก (คลิกที่นี่)
          - มติชนออนไลน์ (คลิกที่นี่)

17/06/2560

© 2015 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเเห่งชาติ. All Right Reserved.
นโยบายเว็ปไซต์ | นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์.

  ipv6 ready 
จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด
5375431
คน
จำนวนผู้เข้าชมวันนี้
62
คน