ประธาน กสม. โต้ข่าว ลดาวัลลิ์ ห่วง กสม. เดี้ยง หากไม่คลอด กสม. 4 โดยเร็ว “วัส ติงสมิตร” ประธาน กสม. โต้ข่าว “ลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์” รอง หน. เพื่อไทย เศร้า กสม.เจอแต่เรื่องวุ่น

02/10/2562 48

ประธาน กสม. โต้ข่าว ลดาวัลลิ์ ห่วง กสม. เดี้ยง หากไม่คลอด กสม. ๔ โดยเร็ว
“วัส ติงสมิตร” ประธาน กสม. โต้ข่าว “ลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์” รอง หน. เพื่อไทย เศร้า กสม.เจอแต่เรื่องวุ่น


                วันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๒ นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อมวลชนฉบับหนึ่งว่า นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รู้สึกเศร้าใจเมื่อได้ข่าวว่า ตนในฐานะ กสม. ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ไต่สวนนายชีพ จุลมนต์ อดีตประธานศาลฎีกา ในฐานะเจ้าพนักงานไม่ร่วมแต่งตั้งบุคคลมาทำหน้าที่เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นการชั่วคราว อันเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
                และเป็นความเคราะห์ร้ายของประเทศไทยที่การสรรหา กสม.ชุดใหม่ ๗ คนเพื่อมาแทน กสม. ชุดปัจจุบัน มีเหตุให้สะดุดหยุดลง ใช้เวลาเกือบปีครึ่งก็ยังสรรหาไม่เสร็จ หากรอไปถึงเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม ๒๕๖๒ ยังไม่ได้ กสม.ชุดใหม่ จะเกิดผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการจัดทำงบประมาณปี ๒๕๖๔ เพื่อใช้ปฏิบัติหน้าที่ของ กสม.
                รวมทั้งความล่าช้าที่นำไปสู่สภาวะชะงักงันของประเทศที่ไร้องค์กรอิสระด้านสิทธิมนุษยชนมาดูแลทำให้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนถูกหมักหมมจนถึงขั้นวิกฤต ถือเป็นความเคราะห์ร้ายของคนไทยทั้งประเทศ นั้น
                ตนขอชี้แจงว่า ข้อความตามข่าวดังกล่าวไม่ถูกต้องทั้งในข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง เพราะกฎหมายให้อำนาจ กสม. ชุดปัจจุบัน เปิดประชุมเพื่อพิจารณาและมีมติในทุกเรื่องได้ หากมีการแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวเพิ่มมาเพียง ๑ คน
                “ข้อห่วงกังวลที่ว่า หากรอไปถึงเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม ๒๕๖๒ ยังไม่ได้ กสม.ชุดใหม่ จะเกิดผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๔ เพื่อใช้ปฏิบัติหน้าที่ของ กสม. นั้น ไม่อาจเกิดขึ้นได้ หากมีการแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวดังกล่าวเพิ่มมาเพียง ๑ คน ซึ่งน่าจะสามารถทำได้ภายในเวลาไม่ถึง ๑๐ วัน ทำให้ กสม. สามารถเปิดประชุมเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในการของบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๔ ซึ่งตามปฏิทินการเสนอของบประมาณ แต่ละหน่วยงานจะต้องเสนอภายในเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์  ๒๕๖๓” นายวัส กล่าว
                ประธาน กสม. กล่าวอีกว่า “ส่วนความเห็นที่ว่า ความล่าช้าในการสรรหาและแต่งตั้ง กสม. ชุดใหม่ นำไปสู่สภาวะชะงักงันของประเทศที่ไร้องค์กรอิสระด้านสิทธิมนุษยชนมาดูแล ทำให้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนถูกหมักหมมจนถึงขั้นวิกฤต ถือเป็นความเคราะห์ร้ายของคนไทยทั้งประเทศนั้น ก็ไม่เป็นความจริงเลย เพราะ กสม. ชุดปัจจุบัน ได้ปฏิบัติหน้าที่ทั้งด้านส่งเสริมสิทธิมนุษยชนจนเลื่องลือไปในวงการระหว่างประเทศ และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในการออกรายงานผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะเสร็จไปกว่าร้อยละ ๘๐ มาหยุดชะงักในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ เมื่อมีกรรมการลาออก ๒ คน แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวมาเพิ่มเพียง ๑ คน เช่นเดียวกัน ไม่เกี่ยวกับรอผลการสรรหาและแต่งตั้ง กสม. ชุดใหม่ดังกล่าว ซึ่งน่าจะยังต้องใช้เวลาร่วม ๙๐ วัน”
                “น่าเชื่อว่า มีกระบวนการกดดันให้คณะกรรมการสรรหาและวุฒิสภาพิจารณาผ่าน กสม. ชุดใหม่โดยเร็ว โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนเสียหายของประเทศชาติ ประชาชน สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของไทย และสำนักงาน กสม. เป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๓ เดือน” นายวัส กล่าวในที่สุด
 

02/10/2562

ไฟล์เอกสารที่เกี่ยวข้อง
เลื่อนขึ้นด้านบน