กสม. ศยามล ลงพื้นที่ยกระดับการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์หนองหอยในพื้นที่ถูกคุกคาม

05/11/2567 21

          เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น. นางสาวศยามล  ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนายไพโรจน์  พลเพชร ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชาติ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ลงพื้นที่บ้านหนองหอยหมู่ที่ 10 ตำบลศรีมหาโพธิ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี รับฟังข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องเรียนว่า นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์หนองหอยในพื้นที่ถูกคุกคามจากกลุ่มชายสวมหมวกอำพรางปิดบังใบหน้าซึ่งคาดว่าจะเป็นพนักงานของบริษัทรีไซเคิลขยะในพื้นที่ดังกล่าว โดยปรากฏพฤติการณ์หลายอย่าง เช่น  คุกคาม ติดตาม พยายามเจรจาพูดคุยเสนอผลประโยชน์ ทำให้กลุ่มนักปกป้องสิทธิมนุษยชนเกิดความหวาดกลัวว่าจะได้รับอันตราย โดยช่วงเดือนกันยายน 2567 มีเหตุการณ์มาประชิดตัวและพูดจาข่มขู่ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่นักปกป้องสิทธิมนุษยชน เสี่ยงจะได้รับจะอันตรายเป็นอย่างมาก จึงไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวนสถานี หลังจากนั้นก็ยังถูกคุกคามและติดตามอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 มีโดรนบินสำรวจบริเวณหน้าบ้าน กลุ่มฅนรักษ์หนองหอย โดยเห็นว่าสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยจะมีความรุนแรงมากขึ้น จากนั้นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพร้อมคณะได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณข้างเคียงสถานประกอบการ ซึ่งตั้งอยู่เป็นกลุ่มประมาณ 4 แห่ง ส่วนใหญ่ถูกสั่งให้หยุดประกอบกิจการ แต่เป็นที่น่าสังเกตโดยเห็นจากภายนอกว่ายังมีพนักงานพักอาศัยอยู่ในแคมป์คนงาน บางแห่งเปิดไฟสว่างซึ่งคาดว่ายังมีการประกอบกิจการอยู่

          เวลา 13.30 น. กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและคณะได้ประชุมรับฟังข้อเท็จจริงเพิ่มเติม รวมถึงแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสถานประกอบการดังกล่าว และมาตรการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ร่วมกับผู้แทนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จังหวัดปราจีนบุรี อำเภอศรีมหาโพธิ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานสาธารณสุขปราจีนบุรี สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 7 สำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 3 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปราจีนบุรี ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบรี และสถานีตำรวจภูธรระเบาะไผ่

          ในการประชุมดังกล่าวพบว่า กลุ่มสถานประกอบการดังกล่าว อยู่ระหว่างถูกสั่งให้หยุดประกอบกิจการ ซึ่งมีผลเป็นการเพิกถอนใบอนุญาตชั่วคราว โดยอยู่ระหว่างสถานประกอบการอุทธรณ์คำสั่ง นอกจากนี้ สถานประกอบการส่วนใหญ่ยังถูกดำเนินคดีในข้อหาตั้งสถานประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองวัตถุอันตราย รวมทั้งสิ้นประมาณ 30 คดี นอกจากนี้ยังมีประเด็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของประชาขนในพื้นที่ เนื่องจากคาดว่ากลุ่มสถานประกอบการดังกล่าวจะครอบครองสารเคมีอันตรายจำนวนมาก รวมถึงการปนเปื้อนสารเคมีในน้ำอุปโภคบริโภคและในชั้นน้ำบาดาลของชาวบ้าน จึงมีการเสนอว่าให้สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรีออกหน่วยเคลื่อนที่ตรวจสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ และให้สำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 3 ร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี ตรวจสอบคุณภาพน้ำบาดาลด้วย

          สำหรับมาตรการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนนั้น สถานีตำรวจภูธรระเบาะไผ่ได้ดำเนินการในบางส่วน เช่น การป้องปราม โดยจัดสายตรวจในพื้นที่ให้มากขึ้น สืบสวน โดยให้สายสืบแฝงตัวในพื้นที่สืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนไปโดยปริยายนั่นเอง ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นควรให้จังหวัดปราจีนบุรีตั้งคณะทำงานเฝ้าระวังด้านสิ่งแวดล้อมและคุ้มครองนักป้องสิทธิมนุษยชนในโซนพื้นที่อำเภอศรีมหาโพธิโดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ด้วย

เลื่อนขึ้นด้านบน