ประธาน กสม. แจง ที่ปรึกษา สสส. กรณี ‘วันเฉลิม’ ได้ประสานบัวแก้วเพื่อหาความจริงแล้ว

11/06/2563 45
 
                        ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อมวลชนฉบับหนึ่งว่า นายไพโรจน์ พลเพชร ที่ปรึกษาสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) และอดีตกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) เห็นว่า ข้ออ้างของนายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่ว่า กสม. ไม่สามารถตรวจสอบกรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เพราะเหตุเกิดนอกราชอาณาจักรไทย จึงไม่อยู่ในหน้าที่และอำนาจที่ กสม. จะตรวจสอบได้ ไม่สามารถรับฟังได้ ด้วยเหตุผลสำคัญ 5 ประการ นั้น
                        ประธาน กสม. ขอแจ้งให้นายไพโรจน์ พลเพชร และสาธารณชนทราบ ดังนี้
                        1. รัฐแต่ละรัฐย่อมมีอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนของตน รัฐธรรมนูญและกฎหมายของรัฐใดจึงย่อมมีผลใช้บังคับภายในดินแดนของรัฐนั้น ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ของไทย อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย (มาตรา 3 วรรคหนึ่ง) กสม. เป็นหนึ่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม (มาตรา 3 วรรคสอง) 
                        2. แม้ กสม. จะมีหน้าที่และอำนาจในการตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยไม่ล่าช้า (รัฐธรรมนูญ มาตรา 247(1)) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 ( พรป. กสม. มาตรา 26(1)) ก็ตาม กสม. ก็ต้องดำเนินการตรวจสอบภายในเขตประเทศไทย โดยมุ่งหมายที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ และเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศ ในกรณีที่ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้นแก่พลเมืองไทยนอกราชอาณาจักรไทย กสม. มีหน้าที่ประสานหรือแสวงหาความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน ภาคประชาสังคม และองค์การระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน (มาตรา 27(3) และมาตรา 33วรรคสอง) กสม. ไม่มีอำนาจที่จะประสานความร่วมมือกับรัฐบาลของประเทศอื่นโดยตรง แต่เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ
                        3. เมื่อมีกรณีนายวันเฉลิมเกิดขึ้นที่กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา กสม. ก็มิได้นิ่งนอนใจ และห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและเสรีภาพของคนไทยที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรไทย จึงได้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจที่กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญ  และ พรป. กสม. โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563 ได้มีหนังสือราชการขอความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและทำความจริงให้ปรากฏ ผ่านหน่วยงานของกระทรวงการต่างประเทศในราชอาณาจักรกัมพูชา แล้วแจ้งให้ กสม. ทราบ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
                        4. ต่อมาเมื่อวันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2563 มีตัวแทนของกลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและนักสิทธิมนุษยชนมายื่นเรื่องขอให้ กสม. เร่งประสานงานกับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสืบหาตัวนายวันเฉลิมโดยด่วน สำนักงาน กสม. ได้รับเรื่องไว้และดำเนินการต่อไปแล้ว
                        5. อนึ่ง เมื่อบ่ายวันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2563 มีรายงานข่าวทางสื่อมวลชนว่า พี่สาวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ได้เข้ายื่นเรื่องต่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองหนึ่ง และโฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อติดตามความคืบหน้า และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล และต่อมาเมื่อวันพุธที่ 10 มิถุนายน 2563 มีการยื่นกระทู้ถามสดต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
                        “หวังว่านายไพโรจน์ พลเพชร คงเข้าใจข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง และการปฏิบัติหน้าที่ของ กสม. เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ถูกต้องครบถ้วนมากขึ้น” นายวัส กล่าวในที่สุด
ตามเอกสารแนบ
 

 

11/06/2563
ไฟล์เอกสารที่เกี่ยวข้อง
เลื่อนขึ้นด้านบน