ที่ปรึกษา กสม. ร่วมเป็นวิทยากรในเวทีการประเมินสถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคกลาง

20/06/2567 143

          เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ที่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม นายไพโรจน์  พลเพชร ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ที่ปรึกษา กสม.) เข้าร่วมเป็นวิทยากรในเวทีการประเมินสถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคกลาง ภายใต้หัวข้อ “แนวคิดและการขับเคลื่อนนโยบายสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี” ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมของโครงการนโยบายสาธารณะสิทธิชุมชนด้านนิเวศและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืนและเป็นธรรม จัดโดย สมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (สคส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ องค์กรภาคประชาชน นักวิชาการ และตัวแทนประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนและหารือในประเด็นสิ่งแวดล้อม  

 

          ที่ปรึกษา กสม. ได้นำเสนอหลักการสำคัญของสิทธิมนุษยชนกับสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี บทบาทของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ข้อเสนอแนะจากรายงานการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการขับเคลื่อนนโยบายของ กสม. ในประเด็นสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี ซึ่งได้กล่าวถึง พัฒนาการด้านสิทธิมนุษยชนกับสิทธิในสิ่งแวดล้อม โดยมีจุดเริ่มต้นจากปฏิญญากรุงสตอกโฮล์ม หรือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิ่งแวดล้อมของมนุษย์ ปี พ.ศ. 2515 ที่ให้ความสำคัญถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม และปฏิญญากรุงริโอ หรือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาปี พ.ศ. 2535 ที่ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างการมีชีวิตที่ดีของมนุษย์กับธรรมชาติ โดยเฉพาะการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่คำนึงถึงอนาคตและคนรุ่นหลัง รวมถึงการให้สิทธิของชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการพัฒนาและจัดการทรัพยากรธรรมชาติ กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2564 คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) มีมติให้การรับรอง “สิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดีเป็นสิทธิมนุษยชนสากล” ดังนั้นจำเป็นต้องรณรงค์ และผลักดันให้มีการรับรองสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดีและสิทธิในการมีส่วนร่วมของชุมชนให้ชัดเจนในกฎหมายไทย โดยในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2560 มีการรับรองสิทธิดังกล่าว เช่น สิทธิชุมชนทางวัฒนธรรม สิทธิชุมชนด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิทธิชุมชนในการมีส่วนร่วมและการพัฒนา สิทธิชุมชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและการเข้าถึงความยุติธรรม เป็นต้น

 

          ทั้งนี้ เวทีการประเมินสถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคกลาง มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือ การเสวนาเพื่อสร้างความเข้มแข็งการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การประมวลสรุปผลสถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การแลกเปลี่ยนผ่านเวทีรับฟังประเด็นสถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการนำเสนอแนวทางและกลไกการเรียนรู้ร่วมกันในการทำงานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ โดยที่ผ่านมาเวทีการประเมินสถานการณ์ได้มีการรับฟังความคิดเห็นในภูมิภาคต่าง ๆ เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคเหนือตอนบน เป็นต้น ซึ่งผลลัพธ์ของเวทีมีความสำคัญนำไปประมวลและจัดทำรายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อมภาคประชาชนรวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อไขปัญหาประเด็นต่าง ๆ เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน