กสม. ศยามล ประชุมแนวทางแก้ไขปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำส่งผลต่อระบบนิเวศและประมงชายฝั่งในพื้นที่ภาคกลาง .

05/04/2567 843

          เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมแม่กลอง ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม นางสาวศยามล  ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนายศิริศักดิ์  ศิริมังคะลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหา สิทธิชุมชน กรณีขอให้ยกระดับการแก้ไขปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำส่งผลต่อระบบนิเวศและประมงชายฝั่งในพื้นที่ภาคกลางบริเวณอ่าวตัว ก. โดยมี นายไพโรจน์  พลเพชร ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ดร. ชวลิต  วิทยานนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สำนักงาน กสม.) เข้าร่วม โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมประมง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมบัญชีกลาง สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานเขตบางขุนเทียน จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สภาทนายความจังหวัดสมุทรสงคราม ชาวบ้านเครือข่ายรักษ์อ่าวไทยตอนบน และเครือข่ายชาวบ้านต่าง ๆ ในพื้นที่ 7 จังหวัด จำนวน 90 คน
 
          ทั้งนี้ ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกันแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้
ระยะเร่งด่วน สำนักงาน กสม. จะมีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดตลอดแนวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ตั้งแต่ภาคตะวันออก อ่าวตัว ก ถึงภาคใต้ตอนล่าง เพื่อขอให้จัดประชุมคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด เพื่อหารือแนวทางการออกประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตผ่อนผัน การอนุญาตและระยะเวลาการผ่อนผันให้ใช้เครื่องมือทำการประมงบางประเภทในการกำจัดปลาหมอคางดำ โดยมุ่งเน้นเรื่องการมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นจากเครือข่ายชาวประมงในพื้นที่ด้วย
 
          ระยะสั้น กรมประมง จะมีหนังสือหารือไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อสอบถามกรณีการนำระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดลองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 มาใช้แก้ไขปัญหาข้างต้นในพื้นที่ พร้อมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหาเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
 
          ระยะกลาง สำนักงาน กสม. จะจัดประชุมร่วมกับกรมประมง หน่วยงานเอกชน คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาในส่วนที่เกี่ยวข้อง และจะประมวลสถานการณ์และข้อเสนอต่าง ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อแก้ไขปัญหาในเชิงระบบต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน