กสม. สุภัทรา ประชุมหารือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับระเบียบกองทัพไทย ว่าด้วยโรงเรียนเตรียมทหาร พ.ศ. 2561 อันอาจเป็นการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพ และจำกัดโอกาสในการศึกษาของเด็ก

05/04/2567 853

          เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 เวลา 09.30 น. นางสาวสุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วย นางสาววันรุ่ง แสนแก้ว ผู้อำนวยการสำนักรับเรื่องร้องเรียนและประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน สำนักงาน กสม. ประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับระเบียบกองทัพไทยว่าด้วยโรงเรียนเตรียมทหาร พ.ศ. 2561 ซึ่งกำหนดเงื่อนไขให้ผู้สมัครจะต้องมีสัญชาติไทยโดยกำเนิด และบิดามารดาต้องมีสัญชาติไทยโดยกำเนิด อันอาจเป็นการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพ และจำกัดโอกาสในการศึกษาของเด็ก ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ กสม. ด้านสิทธิของกลุ่มเปราะบาง เด็ก สตรี ผู้พิการ และการเลือกปฏิบัติ ผู้แทนโรงเรียนเตรียมทหาร ผู้แทนสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ผู้แทนกองทัพไทย ผู้แทนกรมการปกครอง ผู้แทนกรมกิจการเด็กและเยาวชน ผู้แทนศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม ผู้แทนสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท และผู้ร้อง ณ ห้องประชุม 709 ชั้น 7 สำนักงาน กสม.

          สืบเนื่องจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีมีเด็กอายุ 16 ปี เป็นผู้มีสัญชาติไทยและมีฐานะเป็นบุตรบุญธรรม ประสงค์จะสมัครสอบคัดเลือกเข้าสถาบันโรงเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพบก ประจำปี พ.ศ. 2567 แต่ตามระเบียบกองทัพไทยว่าด้วยโรงเรียนเตรียมทหาร พ.ศ. 2561 หมวด 2 ข้อ 11.3 กำหนดเงื่อนไขให้ผู้สมัครจะต้องมีสัญชาติไทยโดยกำเนิด และบิดามารดามีสัญชาติไทยโดยกำเนิด แต่ถ้าบิดาเป็นนายทหารสัญญาบัตร นายตำรวจสัญญาบัตร หรือนายทหารประทวน นายตำรวจประทวน ซึ่งมีสัญชาติไทยโดยกำเนิดแล้ว มารดาจะมิใช่เป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดก็ได้ โดยที่ประชุมได้มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันหลากหลาย ทั้งมิติด้านสิทธิมนุษยชน และมิติด้านความมั่นคง

          ทั้งนี้ กสม. จะนำข้อมูลที่ได้รับไปประกอบการพิจารณาจัดทำข้อเสนอแนะไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยยึดถือประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ ต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน