กสม. วสันต์ เข้าร่วมประชุม Inclusivity in Action: Regional Dialogue on Corruption and Gender ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

04/10/2567 57

          วันที่ 3-4 ตุลาคม 2567 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนายจุมพล ขุนอ่อน ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 1 และเจ้าหน้าที่สำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 1 เข้าร่วมการประชุม Inclusivity in Action: Regional Dialogue on Corruption and Gender จัดโดยสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UN Office on Drugs and Crime: UNODC) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ด้านสิทธิสตรี และด้านการต่อต้านการทุจริต จากกัมพูชา ลาว มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ติมอร์ เลสเต เกาหลีใต้ มองโกเลีย และไทย รวมถึงเจ้าหน้าที่จาก UNODC และสํานักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (The Office of the United Nations High Commissioner for Human Rights: OHCHR)

          การประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเน้นย้ำบทบาทของทุกเพศในการต่อต้านการทุจริต สร้างความเข้าใจร่วมกันว่าผู้หญิงเกี่ยวพันกับการกระทำทุจริตและสามารถช่วยต่อต้านการทุจริตได้อย่างไร ที่ประชุมได้หารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเพศกับการทุจริต บทบาทของผู้หญิงในสายงานตุลาการกับการต่อต้านการทุจริต การทุจริตที่มีการคุกคามทางเพศ และการส่งเสริมให้ผู้หญิงมีบทบาทในการต่อต้านการทุจริต และมีส่วนร่วมทางการเมืองมากยิ่งขึ้น

          ในการนี้ นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ร่วมอภิปรายในหัวข้อการคุ้มครอง ผู้แจ้งเบาะแสและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่เป็นผู้หญิง ร่วมกับผู้แทนจากเกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเจ้าหน้าที่จาก OHCHR โดยได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) พร้อมยกตัวอย่างการคุกคามนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่เป็นผู้หญิงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยรวมถึงการดำเนินการของ กสม. เพื่อช่วยเหลือและคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน  โดยผู้เข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานภาครัฐและประชาสังคมของแต่ละประเทศได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครองให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมทางการเมืองและมีบทบาทในการต่อต้านการทุจริตมากขึ้นซึ่งสามารถนำไปปรับใช้กับบริบทของแต่ละประเทศได้ต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน