กสม.วสันต์ ประชุมรับฟังความเห็นเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะป้องกันไม่ให้มีการละเมิดสิทธิเด็ก กรณีการนำเด็กมาทำคอนเทนต์

08/11/2567 109

          วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.30 น. นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนางสรวงมณฑ์ สิทธิสมาน ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประชุมรับฟังความเห็นเพื่อประกอบการจัดทำข้อเสนอแนะกรณีการป้องกันไม่ให้มีการนำเด็กมาทำคอนเทนต์ ร่วมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครุและบุคลากรทางการศึกษา คุรุสภา กรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เครือข่ายสิทธิเด็กประเทศไทย มูลนิธิสายเด็ก 1387  มูลนิธิรักษ์เด็ก  และบริษัท TikTok Thailand จำกัด ณ ห้องประชุม 709 สำนักงาน กสม.

          การประชุมดังกล่าวสืบเนื่องจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบกรณีข้าราชการครูมีพฤติกรรมนำเด็กนักเรียนไปทำคอนเทนต์ โดยไม่ปกปิดอัตลักษณ์อันเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก ซึ่ง กสม. มีมติรับไว้ประสานความช่วยเหลือ และให้หยิบยกกรณีการนำเด็กมาทำเป็นคอนเทนต์ตามสื่อออนไลน์โดยไม่ปกปิดอัตลักษณ์ขึ้นศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในภาพรวม

          ที่ประชุมได้กล่าวถึงปัญหาการละเมิดสิทธิเด็กจากการนำภาพและข้อมูลเกี่ยวกับเด็กมาทำคอนเทนต์ เช่น ผลต่อสุขภาพจิตและพัฒนาการของเด็ก ความเสี่ยงต่อการถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศ การสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้องในการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับเด็ก การขาดกลไกควบคุมดูแล ตลอดจนหารือถึงแนวทางการกำกับดูแลเรื่องดังกล่าวด้วยกลไกทางกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องตามหลักสิทธิมนุษยชนและพันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) ที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม

          ทั้งนี้ สำนักงาน กสม. จะรวบรวมข้อคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวเพื่อนำไปสู่การจัดทำข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเด็กมาทำคอนเทนต์ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน