แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรง และการกระทำที่ทารุณโหดร้าย ไร้มนุษยธรรมต่อกลุ่มประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

01/05/2557 132

 

                   ในห้วงเวลาที่ผ่านมา  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีความกังวลต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  และได้ติดตามตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดมา  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วยอาวุธสงคราม และการกระทำที่ทารุณโหดร้าย  ไร้มนุษยธรรม และป่าเถื่อน  เช่น การใช้ระเบิดสังหารในที่ชุมชน การใช้อาวุธสงครามสังหารเด็ก สตรี และการสังหารด้วยวิธีทารุณโหดร้าย  รวมถึงการฆ่าตัดคอ  การทำลายศพ  ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต ร่างกายของประชาชนผู้บริสุทธิ์แล้ว ยังเกิดความเศร้าสลดใจแก่ผู้ที่พบเห็นและสังคมโดยรวม  โดย กสม.ขอแสดงความเสียใจ อย่างสุดซึ้งต่อทุกเหตุการณ์ ต่อทุกชีวิต ต่อทุกครอบครัวที่สูญเสียดังกล่าว
                   เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๗ เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. ได้มีคนร้ายจำนวน ๔ คน  แฝงตัวปะปนกับชาวบ้านบริเวณตลาดนัดโรงพยาบาลศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหญิง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน ๑ ราย  ซึ่งเป็นผู้หญิงอยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ ๒ เดือน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน ๑ ราย ยังความเศร้าสลดใจ และหวาดกลัวต่อการกระทำที่โหดร้าย  ไร้มนุษยธรรม  ดังปรากฏเป็นข่าวแล้ว นั้น
                   คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  ในอันที่จะส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและปกป้องหลักการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย อันจะละเมิดมิได้   ขอประณามการกระทำที่โหดร้าย  ไร้มนุษยธรรม ป่าเถื่อน เช่นนี้ และขอเสนอแนะให้ทุกภาคส่วนคำนึงและควรปฏิบัติดังนี้
                   ๑.  ขอให้ผู้ที่ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงได้ยุติการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ผิดกฎหมาย และละเมิดสิทธิมนุษยชนทันที  เพราะการกระทำดังกล่าวนอกจากจะละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้ว ยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ขัดต่อมนุษยธรรมอีกด้วย
                   ๒.  รัฐบาลต้องเพิ่มมาตรการในการรักษาความสงบเรียบร้อย แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวดรัดกุมให้มากยิ่งขึ้น ประชาชน และผู้บริสุทธิ์ ต้องได้รับการปกป้องและคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อสร้างความมั่นใจและความรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข  ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการสร้างระบบการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย  การเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง
                   ๓. รัฐบาล  กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน  ภาค 4 ส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว  เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และดำรงชีวิตอย่างปกติสุข
                   ๔. ประชาชนและทุกภาคส่วนของชุมชน จะต้องช่วยกันสอดส่อง  และระมัดระวังถึงภยันตรายทั้งปวงที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต  ร่างกาย  และทรัพย์สิน จากการก่อความไม่สงบในพื้นที่ในประการสำคัญหากทุกภาคส่วนจะได้แสวงหาหนทาง และแนวทางอยู่ร่วมกันในฐานะประชาชนชาวไทยอย่างสันติสุขแล้ว จะเป็นพลังอย่างมหาศาลในการขับเคลื่อนมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ลุล่วง
                   ๕. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา  ความเสียหาย อย่างรวดเร็วและเป็นธรรม ดำเนินการฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบและครอบครัวจากเหตุการณ์ดังกล่าว
                   ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จะติดตามสถานการณ์และติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือเยียวยา และจะประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยา ตามหลักเกณฑ์ต่อไป  อีกทั้งจะดำเนินการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  และนำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป 

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
 

01/05/2557

เลื่อนขึ้นด้านบน