แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เรื่อง ข้อห่วงใยและข้อกังวลในสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่มีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ

15/05/2557 167

 

                   คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)ได้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง โดยยึดหลักความเป็นกลาง  อิสระ การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนทุกฝ่าย โดยไม่เลือกปฏิบัติ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยึดแนวทางสันติในการแก้ปัญหา มีความเอื้ออาทร เคารพในคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ และเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน 
                   จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา มีการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง  เช่นกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้สื่อมวลชน โดยเฉพาะสถานีวิทยุโทรทัศน์ต่างๆ ให้ความร่วมมือในการเสนอข่าวสาร ซึ่งลักษณะดังกล่าวอาจเป็นการคุกคามสิทธิและเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร  รวมถึงการที่รัฐบาลไม่พยายามให้มีการนำเสนอข่าวทางการเมืองแบบรอบด้าน  นอกจากนี้การทำหน้าที่ของผู้รักษาความปลอดภัยกลุ่มผู้ชุมนุม (การ์ด) ได้ใช้มาตรการที่รุนแรงต่อประชาชน  ในทางกลับกันกลุ่มบุคคลได้ใช้ความรุนแรงต่อผู้รักษาความปลอดภัยกลุ่มผู้ชุมนุม (การ์ด) ในยามวิกาลด้วย  อีกทั้งเหตุการณ์ การใช้ความรุนแรงหรือการก่อการร้าย โดยใช้อาวุธสงคราม  ทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บมาหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง และนับวันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น  นอกจากนี้ยังมีการละเมิดสิทธิและเสรีภาพในความเป็นอยู่ส่วนตัว  ในเกียรติยศชื่อเสียงเป็นรายบุคคล  เป็นการเฉพาะกรณีอย่างหลากหลาย นั้น
                   คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  จึงมีข้อห่วงใยและข้อกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองดังกล่าวที่เกิดขึ้นเรื่อยมา และขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องคำนึงและสมควรดำเนินการที่ต้องระมัดระวังไม่ก่อให้เกิดการยั่วยุด้วยวิธีการใดๆ ไม่เป็นการละเมิดสิทธิซึ่งกันและกัน  และไม่มีการเผชิญหน้าของแต่ละฝ่าย  โดยต้องไม่ก่อให้เกิดความรุนแรงหรือกระทำการใดๆ ที่ผิดกฎหมายและเป็นการกระทบสิทธิและเสรีภาพซึ่งกันและกัน เพื่อมิให้เกิดความสูญเสียอันไม่พึงประสงค์ให้เกิดขึ้นในฐานะที่ต่างเป็นชนชาวไทยด้วยกัน ดังนั้นจึงขอเรียกร้องในข้อที่ควรปฏิบัติ ดังนี้
                   ๑.กลุ่มผู้ชุมนุมที่เคลื่อนไหวตามบริเวณของสถานีวิทยุโทรทัศน์ต่างๆ ต้องไม่คุกคามการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน ต้องเคารพสิทธิและเสรีภาพในการเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะเป็นการรอบด้าน  ไม่กระทำการในลักษณะที่เข้าข่ายการคุกคามสื่อ โดยทุกฝ่ายต้องให้โอกาสสื่อมวลชนในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง อย่างเป็นอิสระ เที่ยงตรง โดยไม่เลือกข้าง  ไม่ใช้ถ้อยคำที่รุนแรงที่จะสร้างความแตกแยกให้ร้าวลึกยิ่งขึ้น และสื่อมวลชนเองต้องรักษาจรรยาบรรณ และจริยธรรมในวิชาชีพ   โดยไม่ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใด
                   ๒.ผู้จัดการชุมนุมหรือผู้นำการชุมนุมต้องควบคุมพฤติกรรมของผู้รักษาความปลอดภัยกลุ่มผู้ชุมนุม(การ์ด)ในการปฏิบัติต่อประชาชนหรือบุคคลทั่วไปเพื่อขอความร่วมมือเกี่ยวกับการขอตรวจค้น  การตรวจค้นต้องไม่กระทำความรุนแรง  และไม่ใช้กำลังหรืออาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และก่อให้เกิดความชิงชังในสังคมเพิ่มยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดความตึงเครียดในสภาวะที่สังคมมีความระแวงซึ่งกันและกัน เป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเพิ่มขึ้น
                   ๓. ขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบที่เกิดขึ้น  โดยเฉพาะการใช้อาวุธสงคราม  ทั้งการใช้ระเบิด เครื่องยิงลูกระเบิด รวมถึงการใช้อาวุธปืนต่อบุคคล  กลุ่มบุคคล และที่ชุมชน ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรง ที่สังคมทั้งในประเทศและสากลไม่ยอมรับ  ขอให้ผู้กระทำและผู้ที่ยุยง สนับสนุนให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในลักษณะก่อการร้ายเพื่อสังหารบุคคล ก่อกวนให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองได้ยุติการกระทำโดยทันที
                   ๔. จากหลายเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น  เจ้าหน้าที่ของรัฐยังไม่สามารถติดตามจับกุมผู้กระทำผิด มาลงโทษตามกฎหมายได้อย่างทันท่วงที    จึงขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีหน้าที่รักษาความปลอดภัย  ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ด้วยความมุ่งมั่นในภารกิจที่ต้องนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายด้วยความรวดเร็ว  ทั้งต้องติดตาม  สืบสวนสอบสวนและจับกุมผู้กระทำผิด เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี เพื่อลงโทษตามกฎหมาย อันจะก่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อสังคม และพร้อมกันนี้ต้องให้การปกป้องและคุ้มครองความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชนโดยทั่วไปในคราวเดียวกันด้วย
                   ๕. ขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วนได้เฝ้าติดตามสถานการณ์  และช่วยกันประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ  ตลอดจนต้องเรียกร้องแต่ละฝ่ายอย่าให้เกิดการเผชิญหน้า และยั่วยุให้เกิดความเกลียดชังจนนำไปสู่การใช้ความรุนแรง  ซึ่งจะทำให้ประเทศชาติเกิดความเสียหายอย่างรุนแรงในทุกด้าน
                   คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด  และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการชุมนุมและการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมและประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้สถานที่ชุมนุมจะเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน  อันจะนำมาซึ่งความสงบสุขของสังคมและของประเทศชาติต่อไป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกฝ่ายจะตระหนักในการเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  จะเร่งดำเนินการ การตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามอำนาจหน้าที่ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และจะรายงานให้สาธารณชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ทราบในโอกาสต่อไป


คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

15/05/2557

เลื่อนขึ้นด้านบน