กสม. สุภัทรา กล่าวเปิดการประชุมหารือเพื่อสร้างความเข้มแข็งและเสริมสร้างสิทธิความหลากหลายทางเพศ

22/12/2566 27
                วันที่ 22 ธันวาคม 2566 เวลา 9.30 – 16.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สำนักงาน กสม.) นางสาวสุภัทรา  นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นประธานและกล่าวเปิดการประชุมหารือเพื่อสร้างความเข้มแข็งและเสริมสร้างสิทธิความหลากหลายทางเพศ เพื่อมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งและการแบ่งปันประสบการณ์ระหว่างชุมชนและผู้จัดงานไพรด์ทั่วประเทศ รวมทั้งเพื่อเตรียมความพร้อมและพัฒนากิจกรรมในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
 
                สืบเนื่องจากงาน Pride Month เป็นกิจกรรมของกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งจัดในเดือนมิถุนายนของทุกปี เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความภาคภูมิใจและความชอบในตัวตนที่แท้จริง รวมถึงการที่กลุ่มคนเหล่านี้ยังไม่ได้รับความเท่าเทียมและการยอมรับในฐานะมนุษย์คนหนึ่งจากสังคมเท่าที่ควร ทำให้มีหลายแห่งในโลกที่จัด “เทศกาลไพรด์” ขึ้น โดยในปี ค.ศ. 2028 (พ.ศ. 2571) คาดว่าจะมีกำหนดการจัดงาน World Pride 2028 ที่กรุงเทพมหานคร และเพื่อเตรียมการจัดงานดังกล่าว จึงได้มีการประชุมหารือร่วมกันของเครือข่ายหน่วยงานด้านส่งเสริมสิทธิผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยมีรายละเอียดการประชุมที่เกี่ยวข้อง คือ การถอดบทเรียนประสบการณ์จัดงาน Pride Month ที่ผ่านมา การแบ่งกลุ่มอภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และความท้าทายที่พบในการจัดงาน การอภิปรายเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับวิธีการส่งเสริมและการรวบรวมประเด็นเรื่องการเรียกร้องกฎหมายเพื่อความเป็นธรรมทางเพศเข้ากับการจัดงานไพรด์
 
                ทั้งนี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้กล่าวเปิดการประชุมมีใจความส่วนหนึ่งระบุว่า เป็นข้อท้าทายที่จะทำให้การรณรงค์ส่งเสริมสิทธิความหลากหลายทางเพศ กระจายไปยังทั่วประเทศมากกว่าที่กรุงเทพมหานคร แม้ว่าทัศนคติของสังคมไทยจะยังมีมุมมองที่หลากหลายต่อกลุ่มผู้มีความหลายทางเพศ แต่สังคมมีพัฒนาการเรื่องนี้ในทางที่ดีขึ้นอย่างเป็นพลวัติ รวมถึงเน้นย้ำว่าการสนับสนุนผลักดันกฎหมายของการส่งเสริมสิทธิความหลากหลายทางเพศให้เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ไม่ได้เป็นการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลหรือกลุ่มคนใดกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นเครื่องมือที่จะประกันและรับรองสิทธิของกลุ่มผู้ความหลากหลายทางเพศให้เท่าเทียมกันในสังคมโดยขอให้เครือข่ายร่วมกันสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้แก่สังคมกันต่อไป
เลื่อนขึ้นด้านบน