ข่าวแจก
กรณีรายงานข่าว “การวอล์คเอ้าท์ของ กสม.” ในเวที กสม.พบประชาชน ณ จังหวัดขอนแก่น

              ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสารมวลชนว่า  เมื่อวันพุธที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๙  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)  วอล์คเอ้าท์ ! ระหว่าง “อีสานใหม่” แถลงการณ์ปัญหาการละเมิดสิทธิในอีสาน”  ณ จังหวัดขอนแก่น นั้น

              นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แถลงว่า “เวที กสม. พบประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” เป็นกิจกรรมที่ กสม. ได้จัดให้มีขึ้นในระหว่างวันที่ ๒๘ - ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๙ ณ จังหวัดขอนแก่น

              วันแรก มีการลงพื้นที่ศึกษาสถานการณ์สิทธิมนุษยชนกรณีการเจาะสำรวจแหล่งปิโตรเลียม บ้านนามูล ตำบลดูนสาด อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น และประชุมหารือระหว่างผู้แทนสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน รวมทั้งองค์กรพัฒนาเอกชนและประชาชน ในเรื่องทิศทางการทำงานร่วมกับ กสม. ณ โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น

              วันที่สอง หลังจากเปิดงานเวที กสม. พบประชาชนแล้ว การประชุมก็ได้ดำเนินการตามกำหนดการต่างๆ เป็นลำดับไป โดยมีการแบ่งผู้เข้าร่วมงานกว่า ๒๐๐ คน ออกเป็น ๖ กลุ่มย่อยเพื่อพิจารณาตามสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๑๙  จังหวัด อาทิ ประเด็นทรัพยากรป่าไม้และที่ดิน ทรัพยากรน้ำ การสร้างเขื่อนและการทำประมง พลังงานและเหมืองแร่ เป็นต้น  ซึ่งผู้เข้าร่วมงานได้แสดงความคิดเห็นและมีข้อเสนอแนะเป็นจำนวนมาก

              ในวันที่สาม (๓๐ มีนาคม ๒๕๕๙) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงาน ช่วงเช้าผู้แทนกลุ่มย่อยทั้ง ๖ กลุ่ม    ได้เสนอผลการประชุมกลุ่ม มีข้อมูล และข้อเสนอแนะจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ได้รวบรวมปัญหาและข้อเสนอแนะไว้แล้ว พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้แสดงความคิดเห็นและซักถามเพิ่มเติม เมื่อครบถ้วนแล้ว ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขึ้นกล่าวสรุปแนวทางการทำงานเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนระหว่างภาคีเครือข่าย กับ กสม. และแจ้งให้ทราบถึงกฎหมายฉบับล่าสุดที่มีการประกาศใช้คือพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๙   เป็นต้นไป รวมทั้งแจ้งให้ทราบถึงข้อความในร่างรัฐธรรมนูญร่างที่ ๒ ซึ่งจะมีการนำไปลงประชามติต่อไป ในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน และหน้าที่ของรัฐในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนพร้อมแนวทางแก้ไขปัญหาถ้ารัฐไม่ดำเนินการ เสร็จแล้ว ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้กล่าวปิดงาน เวที กสม. พบประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากนั้น กลุ่มผู้เข้าประชุมทั้ง ๖ กลุ่มได้ถ่ายรูปร่วมกับ กสม. และผู้บริหารสำนักงาน กสม.ไว้เป็นที่ระลึก พร้อมทั้งได้ยื่นข้อร้องเรียนเพิ่มเติมต่อประธานกรรมการและ กสม. เสร็จสิ้นเวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น. ประธานกรรมการและ กสม.ต้องออกเดินทางไปตามกำหนดนัดหมายพบคณบดี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในเวลา ๑๓.๓๐ น เพื่อปรึกษาหารือวางแนวทางในการจัดตั้งศูนย์ศึกษาและประสานงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมถึงการดูสถานที่ตั้งศูนย์ฯ ซึ่งหลังจากการพบกับคณบดีคณะนิติศาสตร์แล้ว ยังมีกำหนดการพบอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อปรึกษาข้อราชการด้วย หลังจากนั้นประธานกรรมการและ กสม.ออกเดินทางไปสนามบินขอนแก่นเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

              ส่วนกรณีที่ “ขบวนการอีสานใหม่” ขออ่านคำแถลงการณ์เรื่อง “ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนประเด็นทรัพยากรธรรมชาติในภาคอีสาน” ในงาน เวที กสม. พบประชาชน ในเวลา ๑๓.๐๐ น. นั้น ประธาน กสม. ได้รับมอบแถลงการณ์ดังกล่าวแล้ว แต่เนื่องจากไม่ทราบว่า “ขบวนการอีสานใหม่” เป็นประชาชนกลุ่มใด อยู่ในพื้นที่ใด ประกอบกับเนื้อหาในคำแถลงการณ์ก็ล้วนแล้วแต่ปรากฏอยู่ในการประชุมกลุ่มย่อยทั้ง ๖ กลุ่มแล้ว หลังพิธีปิดการประชุมอย่างเป็นทางการแล้ว ประธานกรรมการและ  กสม. ต้องออกเดินทางไปตามกำหนดนัดหมายที่กำหนดไว้แล้วดังกล่าวข้างต้น จึงไม่ได้อยู่ฟังการอ่านคำแถลงการณ์ของ “ขบวนการอีสานใหม่” จึงไม่ใช่กรณีที่ กสม. วอล์คเอ้าท์ ตามที่เป็นข่าว

นายวัส  ติงสมิตร
ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙

31/03/2559