ข่าวแจก
เรื่อง การใช้เครื่องพันธนาการแก่นักศึกษากลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ๗ คน เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙

               กรณีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้ใช้เครื่องพันธนาการประเภทกุญแจเท้าแก่นักศึกษากลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ซึ่งตกเป็นผู้ต้องขังระหว่างสอบสวนตามหมายขังของศาลทหารกรุงเทพ จำนวน ๗ คน ได้แก่ นายรังสิมันต์ โรม นายนันทพงศ์ ปานมาศ นายกรกช แสงเย็นพันธ์ นายสมสกุล ทองสุกใส นายอนันต์ โลเกตุ นายธีรยุทธ นาขนานรำ และนายยุทธนา ดาศรี โดยได้ใช้ในการคุมตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครไปยังศาลทหารกรุงเทพ เพื่อให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ยื่นคำร้องขออำนาจศาลทหารฝากขังเป็นครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙ การใช้เครื่องพันธนาการแก่นักศึกษาผู้ต้องขังทั้งเจ็ดในกรณีนี้ ได้มีสื่อมวลชนจำนวนมากนำเสนอข่าวไปทั่วโลกว่าเป็นการใช้ตรวน มีปัญหาว่า กรณีนี้จะถือเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และสิทธิเสรีภาพในร่างกาย อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของนักศึกษาผู้ต้องขังทั้งเจ็ดหรือไม่ เพียงใด
 

               คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ตรวจสอบและพิจารณาในการประชุมครั้งที่ ๒๕ /๒๕๕๙ วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๙ แล้ว เห็นว่า นักศึกษาผู้ต้องขังทั้งเจ็ดในกรณีนี้ถูกจับกุมในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๓/๒๕๕๘ ที่ห้ามมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาร่วมกันก่อความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๙ สืบเนื่องมาจากการที่นักศึกษากลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้จัดกิจกรรมแจกเอกสารรณรงค์ไม่รับประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยมีข้อหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานสอบสวนในการพิมพ์ลายนิ้วมือ และไม่อาจแสดงบัตรหรือใบรับหรือใบแทนใบรับเมื่อเจ้าพนักงานตรวจบัตรขอตรวจด้วย มิได้มีลักษณะเป็นการก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรงสะเทือนขวัญต่อประชาชนแต่อย่างใด กรณีนี้จึงไม่อาจถือได้ว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่จะใช้กุญแจเท้าแก่ผู้ต้องขังได้ การที่เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้ใช้กุญแจเท้าแก่นักศึกษาผู้ต้องขังทั้งเจ็ด เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในร่างกายของบุคคลโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนการคุมตัวนักศึกษาผู้ต้องขังทั้งเจ็ดออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครไปยังศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙ โดยมีการทำให้ภาพของการใส่กุญแจเท้าปรากฏต่อสาธารณชนไปทั่วโลก เป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอีกส่วนหนึ่ง ทั้งสองกรณีดังกล่าว เป็นไปตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ และตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เห็นควรเสนอมาตรการการแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 
๙ สิงหาคม ๒๕๕๙
 

09/08/2559