เมื่อวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566  ที่ co event space ชั้น 5 ศูนย์การค้ายูเนี่ยนมอลล์ ลาดพร้าว คุณสุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร่วมเสวนา “ เสียงของเรา ทางเลือกของเรา : รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก เยาวชน และสตรี” ในมหกรรมโชว์ แชร์ เชื่อมพลังภาคีเด็ก เยาวชน และสตรี ยุติความรุนแรงเด็ก เยาวชนและสตรี ซึ่งองค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ร่วมกับองค์การภาคประชาสังคมจัดขึ้นเนื่องในวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากลและวันเด็กโลก เพื่อรวมพลังและสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาความรุนแรงในผู้หญิงและเด็กหญิง ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังที่หยั่งรากลึกในทุกสังคม พร้อมรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงทางเพศให้ลดลง โดย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้กล่าวถึงสถานการณ์และรูปแบบความรุนแรงที่เกิดกับเด็กและผู้หญิงในประเทศไทยที่เกิดจากคนใกล้ตัว เรื่องร้องเรียนความรุนแรงของเด็กและผู้หญิงที่มีมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ความคืบหน้าของการผลักดันการแก้ไขปัญหาเพื่อคุ้มครองสิทธิเด็ก ทั้งในเรื่องการยกเลิกข้อสงวนในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก การแต่งงานในเด็ก
 
                วิทยากรร่วมเสวนาได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและข้อมูลแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งในโรงเรียน ชุมชน รวมถึงในสังคมออนไลน์ และนโยบายการรับมือของ ภาครัฐไทย กับภูมิภาคอาเซียน เพื่อลดและยุติความรุนแรง ประกอบด้วย ศ.กิตติคุณ ดร.อมรา พงศาพิชญ์ คุณวันชัย  รุจนสงศ์ ผู้แทนไทยด้านสิทธิเด็กคณะกรรมาธิการอาเซียน คุณวาสนา  เก้านพรัตน์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์พิทักษ์เพื่อสิทธิเด็ก คุณเกรียงไกร ไชยเมืองดี ผู้อำนวยการมูลนิธิรักษ์เด็ก คุณธีระศักดิ์  เรืองสา ประธานสภาเด็กและเยาวชนเขตดินแดง กรุงเทพมหานคร คุณศศิธร วงศ์ชัย มูลนิธิศูนย์เพื่อน้องหญิง คุณธีรเดช เบี่ยงแล เครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก CRYA และตัวแทนมูลนิธิศุภนิมิต คุณนาหมี  แซ่ว่าง ผู้แทนสตรีเชียงของ ในงานมีการแสดง นิทรรศการสื่อรณรงค์และแสดงผลงาน Workshop เสริมสร้างพลังเยาวชนเรียนรู้เรื่อง และขบวนรณรงค์ จากภาคีเครือข่าย อาทิ สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย สำนักข่าวเด็กและเยาวชนจังหวัดพะเยา เครือข่ายสิทธิเด็กแห่งเอเชีย มูลนิธิรักษ์เด็ก
 
                มหกรรมโชว์ แชร์ เชื่อมพลังภาคีเด็ก เยาวชน และสตรี วันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล จัดภายใต้โครงการ Our Voices Our Choices (OVOC) ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรป องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล สำนักงานเอเชียและแปซิฟิค เมื่อวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งเป็น “วันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล” (International Day for the Elimination of Violence against Women) ซึ่งรวมถึงเด็กผู้หญิง และเป็นวันเริ่มต้น 16 วันแห่งการรณรงค์เพื่อยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศซึ่งกิจกรรมจะดำเนินการไปจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสิทธิมนุษยชน อีกทั้ง คณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็น “เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี”  โดยร่วมกันส่งเสียงเพื่อรณรงค์ยุติความรุนแรงภายใต้ข้อความ #blossomnotbroken “เมื่อหยุดทำร้าย ดอกไม้จึงเบ่งบาน” เพื่อสื่อสารว่าหากรณรงค์ยุติการทำร้ายเด็กและสตรีได้ ก็จะส่งผลให้เด็กและสตรีมีการเติบโตที่มีคุณภาพ