เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 ช่วงบ่าย นางสาวปิติกาญจน์  สิทธิเดช  กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  พร้อมด้วยนายชนินทร์  เกตุปราชญ์  รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เดินทางเข้าพบกับนายทรงพล  ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด ยุติธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด ประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมหารือแนวทางความร่วมมือการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ณ ห้องรับรองบ่อพันขัน ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด

          ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดได้กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สำนักงาน กสม.) ได้มาจัดตั้งสำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะเกิดความสะดวกรวดเร็วในการประสานงานและเกิดการขับเคลื่อนงานสิทธิมนุษยชนร่วมกับหน่วยงานในระดับอำเภอ และในระดับจังหวัดได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ได้มีการนำเสนอผลการดำเนินงานของจังหวัดเพื่อช่วยเหลือคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในกลุ่มเปราะบาง ทั้งการช่วยเหลือในสิทธิด้านการสาธารณสุขและที่อยู่อาศัยของผู้ยากไร้ในพื้นที่ การคุ้มครองสิทธิเด็ก เยาวชน และชุมชน โดยฟื้นฟูเยาวชนผู้ติดยาเสพติดโดยใช้กระบวนการชุมชนบำบัด ภายใต้ชื่อ “หัวโทนโมเดล” ซึ่งกลายเป็นโมเดลนำร่องการแก้ปัญหายาเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนให้พื้นที่อื่นๆ ของประเทศ

          ทั้งนี้ ผลการหารือยังเห็นพ้องต้องกันถึงความสำคัญของภารกิจงานด้านการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะการฝึกอบรม การพัฒนาแกนนำด้านสิทธิมนุษยชน แก่บุคลากร เจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงเด็กและเยาวชน ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวเรียกร้องในประเด็นสิทธิชุมชน ซึ่งทางจังหวัดร้อยเอ็ดจะได้มีการติดต่อกับสำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อมุ่งให้เกิดการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแก่ทุกฝ่าย โดยการประสานขอให้ร่วมลงพื้นที่สังเกตการณ์ในการชุมนุมเรียกร้อง หรือการขอคำแนะนำในการปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนในประเด็นต่าง ๆ โดยจังหวัดร้อยเอ็ดยินดีที่จะร่วมมือและสนับสนุนการทำงานร่วมกับสำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในทุกมิติทั้งในมิติการคุ้มครอง ส่งเสริม และเฝ้าระวังสถานการณ์สิทธิมนุษยชน เพื่อยกระดับการขับเคลื่อนงานสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดต่อไป