เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565 ที่ห้องสะบารัง โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุชาติ เศรษฐมาลินี กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพื้นที่ภาคใต้ เข้าร่วมประชุมรับฟังความเห็น เรื่อง " แนวทางการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสตรีในกิจการศาสนาอิสลาม ด้านเด็ก สตรี และครอบครัว ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพภาคประชาสังคมชายแดนใต้โดยกระบวนการหารืออย่างสร้างสรรค์" จัดโดย เครือข่ายผู้หญิงภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (CIVIC WOMEN) ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่ดำเนินงานด้านการเสริมสร้างพลังศักยภาพของผู้หญิงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับองค์กรเครือข่าย
                         ในการนี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นวิทยากรนำเสนอ เรื่อง "การมีส่วนร่วมและสิทธิของสตรีมุสลิมในการบริหารกิจการศาสนาอิสลาม" โดยกล่าวว่า วันที่ 10 ธันวาคม เป็นวันที่มีการรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (UDHR) ซึ่งความเท่าเทียม สิทธิในชีวิต สิทธิที่จะไม่ถูกทรมาน สิทธิในทรัพย์สิน และสิทธิอื่นๆ ใน UDHR เป็นเรื่องที่คุ้นเคยของมุสลิม เนื่องจากหลักการเหล่านั้นมีปรากฏอยู่ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน อีกทั้ง ในยุคประวัติศาสตร์ของการเผยแพร่ศาสนาอิสลามที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคมและถือว่าเป็นการปฏิวัติสิทธิสตรีอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากมีการยกเกียรติของสตรีและหญิงหม้ายให้มีศักดิ์ศรีและมีความเท่าเทียมกันในความเป็นคน และมีการมอบบทบาทสำคัญด้านเศรษฐกิจอิสลามให้แก่สตรี ดังนั้น เราจึงควรให้ความสำคัญในการส่งเสริมบทบาทของผู้หญิงมุสลิมในพื้นที่สาธารณะ และแนวทางการมีส่วนร่วมของผู้หญิงที่จะสามารถเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาสังคม
                         การประชุมดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วยภาคส่วนของผู้นำศาสนา ได้แก่ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด นักวิชาการศาสนาอิสลาม ผู้หญิงภาคประชาสังคม ผู้แทนศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้แทนจากพรรคการเมือง เช่น ผศ.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ในนามของผู้แทนพิเศษรัฐบาลและรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คุณเพชรดาว โต๊ะมีนา ส.ส. พรรคภูมิใจไทย คุณอาดีลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ คุณกมลศักดิ ลีวาเมาะ ส.ส. พรรคประชาชาติ คุณมูนีเราะ ปอแซ ผู้แทนพรรคไทยสร้างไทย และคุณรอมฎอน ปันจอร์ ผู้แทนพรรคก้าวไกล โดยผู้เข้าร่วมการประชุมจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานเพื่อหนุนเสริมการมีส่วนร่วมของสตรีในกิจการศาสนาอิสลาม ด้านเด็ก สตรี และครอบครัว รวมทั้งข้อเสนอให้มีอนุกรรมการฝ่ายกิจการสตรีและครอบครัวในคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความร่วมมือในการทำงานร่วมกันระหว่างกลุ่มสตรีและคณะกรรมการบริหารองค์กรศาสนาอิสลามในระดับต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเด็ก สตรี และครอบครัว ที่ประสบปัญหาและสถานการณ์ที่น่าห่วงใยในปัจจุบัน
                         ทั้งนี้ ที่ประชุมมีความเห็นสอดคล้องกันว่า ปัจจุบันปัญหาสตรีและเด็กทวีความรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อน จึงจำเป็นต้องให้ผู้หญิงเข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม และทุกภาคส่วนควรหนุนเสริมบทบาทของสตรีและการมีส่วนร่วมของสตรีในทุกมิติ อย่างเป็นระบบ และสำหรับสตรีทั่วประเทศ