เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น. สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (สำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เข้าร่วมโครงการรณรงค์สร้างการรับรู้กฎหมายสมรสเท่าเทียม จังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2568 ภายใต้ชื่อกิจกรรม “คู่รัก ฮักแพง เบิ่งแยงกัน” จัดโดย ภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในจังหวัดขอนแก่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์สร้างความรับรู้เกี่ยวกับกฎหมายการสมรสเท่าเทียมให้แก่ผู้เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไป และเพื่อแสดงออกถึงวัฒนธรรมประเพณีการมงคลสมรส ความรักและความเอื้ออาทรของการอยู่ร่วมกันของผู้คนหลากหลายเพศในจังหวัดขอนแก่น โดยกิจกรรมแบ่งเป็นการเสวนา "สมรสเท่าเทียม ก้าวแรกสู่ความเสมอภาคทางเพศในสังคม (คู่รัก ฮักแพง เบิ่งแยงกัน)" จังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2568 ณ ห้องประชุมแก่นเมือง (ชั้น 1) ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น

          ในกิจกรรมดังกล่าว สำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับมอบประกาศนียบัตรในฐานะผู้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้ จากนายประจวบ  รักแพทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และร่วมรับฟังการแสดงความคิดเห็นในมุมมองการพัฒนาสังคมที่หน้าอยู่อย่างปลอดภัยต่อ LGBTQ+ ภายหลังการเสวนาดังกล่าวได้มีการจัดกิจกรรม คู่รัก ฮักแพง เบิ่งแยงกัน ณ สะพานราชพฤกษ์วิถี บึงแก่นนคร เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น โดยเป็นพิธีการสมรสของคู่รักหลากหลายทางเพศ มีกิจกรรมแห่ขันหมากและจดทะเบียนสมรส นอกจากนี้ยังมีการออกบูธนิทรรศการของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนภายในจังหวัดขอนแก่นเพื่อรณรงค์สร้างการรับรู้ กฎหมายการสมรสเท่าเทียมให้แก่ผู้เข้าร่วมงานและประชาชนทั่วไป โดยสำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ร่วมจัดบูธนิทรรศการประชาสัมพันธ์ภารกิจด้านสิทธิมนุษยชนขององค์กร พร้อมกิจกรรมเล่นเกมบิงโกสิทธิมนุษยชนแก่ผู้เข้าร่วมงาน เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ในประเด็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ความเท่าเทียมและการไม่เลือกปฏิบัติ ภายใต้ความแตกต่างหลากหลายตามหลักการสิทธิมนุษยชน

          ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวยังถือเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนภารกิจด้านสิทธิมนุษยชน ของสำนักงาน กสม. ร่วมกับหน่วยงานและภาคีเครือข่ายภายในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศและความเท่าเทียมระหว่างเพศ เพื่อมุ่งหวังให้ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในจังหวัดขอนแก่น ร่วมกันส่งเสริมความเสมอภาค และขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ ให้เป็นไปตามกฎหมายภายในประเทศและตามหลักการสิทธิมนุษยชนสากลและพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี