เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 นางสาวศยามล  ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนางสาวมณีรัตน์  มิตรปราสาท ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สำนักงาน กสม.) ลงพื้นที่ร่วมกับนักวิชาการ สื่อมวลชน ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ รับฟังข้อห่วงกังวลและข้อเสนอแนะของชุมชนริมแม่น้ำโขงบ้านห้วยลึก ตำบลม่วงยาย อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ในประเด็นโครงการสร้างเขื่อนปากแบงที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน (สปป. ลาว) ในการนี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับชุมชนถึงบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และผลกระทบข้ามพรมแดนที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมถึงแนวทางการจัดการภัยพิบัติต่อกรณีการเกิดน้ำท่วมในพื้นที่

          ต่อมาในวันที่ 26 ตุลาคม 2567 ณ ที่ว่าการอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ร่วมอภิปรายในเวทีสาธารณะ “บทสรุป ข้อเสนอนโยบายเพื่อการพัฒนาชุมชนลุ่มน้ำโขงอย่างยั่งยืน” โดยกล่าวว่า กสม. มีบทบาทสำคัญในเรื่องการขับเคลื่อนภารกิจด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นนโยบายหนึ่งที่ กสม. ให้ความสำคัญ โดยในส่วนของการช่วยเหลือประชาชนจากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชนข้ามพรมแดน กลไกการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนของ กสม. สามารถทำได้หากมีผู้ประกอบกิจการเป็นเอกชนไทยรวมอยู่ด้วย ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ในหลายมิติ ทั้งมิติสิทธิชุมชน มิติสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี ประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน รวมถึงนโยบายของรัฐด้านพลังงานที่มีผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน โดยยกตัวอย่างกรณีโครงการสร้างเขื่อนปากแบง ที่ดำเนินการในประเทศ สปป. ลาว แต่คาดการณ์ตั้งแต่ก่อนเริ่มสร้างว่าอาจมีผลกระทบมาถึงประเทศไทย ซึ่ง กสม. อยู่ระหว่างการตรวจสอบในส่วนนี้