กสม. ร่วมเวที การคุ้มครองเด็ก: จากหลักฐานเชิงประจักษ์สู่การปฏิบัติ

18/03/2568 9

                 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนายภาณุพันธ์  สมสกุล ผู้อำนวยการสำนักเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. เข้าร่วมเวที “การคุ้มครองเด็ก: จากหลักฐานเชิงประจักษ์สู่การปฏิบัติ” จัดโดย กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ณ โรงแรม SkyView กรุงเทพฯ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและองค์กรภาคประชาสังคมเข้าร่วมเวที

                 ในงานดังกล่าว ผศ.สุชาติ  เศรษฐมาลินี กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้กล่าวปาฐกถาผ่านทางออนไลน์ ในหัวข้อ “การคุ้มครองเด็กและการเลี้ยงดูทดแทนในบริบทมุสลิม” ซึ่งเป็นการกล่าวถึงประสบการณ์การเลี้ยงดูทดแทน และความเห็นต่องานวิจัยเรื่อง “การวิเคราะห์สถานการณ์การเลี้ยงดูทดแทนในบริบทจังหวัดชายแดนใต้” ซึ่ง ผศ.สุชาติ ได้เน้นย้ำความจำเป็นของการมีนโยบายคุ้มครองเด็กอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรในสถาบันการศึกษาขององค์กรศาสนา เพื่อลดการแสวงประโยชน์จากเด็ก และการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 อีกทั้งสนับสนุนการมีหน่วยงานอิสระที่สามารถรับเรื่องร้องเรียนจากเด็กที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กในการยื่นเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ นอกจากนี้ ผู้ที่ดูแลเด็กในสถานรองรับควรได้รับการอบรมให้มีความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก แนวทางการเลี้ยงดูทดแทน และกระบวนการคุ้มครองเด็ก

                 สำหรับในปี 2567 กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) และองค์กรภาคีเครือข่ายจัดทำการศึกษาสถานการณ์และการคุ้มครองเด็ก 5 ฉบับ ได้แก่

                 1. สถานการณ์ด้านการคุ้มครองเด็ก: เด็กที่ไม่ได้อาศัยอยู่กับบิดามารดาในประเทศไทย

                 2. การวิเคราะห์สถานการณ์การเลี้ยงดูทดแทนในบริบทจังหวัดชายแดนใต้

                 3. สถานการณ์การอพยพโยกย้ายถิ่นฐานปี 2567 ในประเทศไทย

                 4. การประเมินสถานการณ์ของเด็กที่เดินทางโดยลำพังหรือเด็กที่พรากจากผู้ปกครองชาวเมียนมาที่เข้ามายังประเทศไทยในจังหวัดตาก เชียงใหม่ และเชียงราย

                 5. การศึกษาค่าใช้จ่ายของการคุ้มครองเด็กและบริการสำหรับเด็กและครอบครัวภายใต้บันทึกความเข้าใจเรื่องกำหนดมาตรการและแนวทางแทนการกักตัวเด็กไว้ในสถานกักตัวคนต่างด้าวเพื่อรอการส่งกลับ

                 ในช่วงนำเสนอผลการศึกษา นายวสันต์ ได้นำเสนอ “รายงานเด็กอพยพโยกย้ายถิ่นฐาน 5 กลุ่ม และแนวทางการสร้างความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ ในการคุ้มครองสิทธิเด็กในบริบทอพยพโยกย้ายถิ่นฐาน” ซึ่งเป็นผลการศึกษาเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และแนวทางแก้ปัญหาเชิงปฏิบัติ โดยแสดงข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับการจดแจ้งทะเบียนลูกหลานแรงงานข้ามชาติกับเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติและการปิดศูนย์การเรียนรู้ ซึ่งกระทบต่อสิทธิด้านการศึกษาของเด็กกลุ่มนี้ โดยเน้นย้ำการกระทำใด ๆ เกี่ยวกับเด็กต้องยึดหลักการไม่เลือกปฏิบัติและคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงมีข้อเสนอแนะไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาเด็กอพยพย้ายถิ่น ทั้งด้านการศึกษา สาธารณสุข สถานะบุคคล และการอาศัยอยู่ในราชอาณาจักร โดยอยู่ระหว่างติดตามผลการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

                 ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะรวบรวมข้อมูล ข้อคิดเห็น และข้อท้าทาย ตลอดจนปัญหาและอุปสรรคที่ได้รับจากวิทยากรและผู้เข้าร่วมเวที “การคุ้มครองเด็ก: จากหลักฐานเชิงประจักษ์สู่การปฏิบัติ” นำไปประกอบการจัดทำรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2568 ต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน