แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็กและสตรี ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

05/02/2557 125

 

                   ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เคยแสดงความห่วงใยและความกังวลต่อการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยได้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและติดตาม  รวมถึงการออกแถลงการณ์เพื่อประณามการใช้ความรุนแรงมาโดยตลอด  จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗  ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส จนเป็นเหตุให้ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นเด็ก จำนวน ๓ ราย  และได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน  ๒ ราย และหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นมารดาเด็กที่เสียชีวิตทั้ง ๓ รายดังกล่าว ประกอบกับขณะนี้ได้ตั้งครรภ์อยู่ด้วย  ดังปรากฏเป็นข่าวแล้ว นั้น
                    คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อผู้ที่เสียชีวิต  ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ  รวมไปถึงครอบครัวของบุคคลดังกล่าว ตลอดจนความห่วงใยในสวัสดิภาพของประชาชนในพื้นที่  และขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม ผิดต่อกฎหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชน และหลักมนุษยธรรมซึ่งเป็นหลักสากลที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ  อีกทั้งห้วงระยะเวลาที่ก่อความไม่สงบ เกิดขึ้นภายหลังที่ผู้สูญเสียกลับจากประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และผู้ที่เสียชีวิตเป็นเด็กสตรี และประชาชนผู้บริสุทธิ์
                   คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  ในอันที่จะส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและปกป้องหลักการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย สิทธิในทรัพย์สินส่วนบุคคลและส่วนรวมอันจะละเมิดมิได้  จึงขอเสนอแนะให้ทุกภาคส่วนคำนึงและควรปฏิบัติดังนี้
                   ๑.รัฐบาล  กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน  ภาค ๔ ส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว  และรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณชน
                   ๒.รัฐบาลควรเพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวดยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งให้กลุ่มเด็ก สตรี และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ต้องได้รับการคุ้มครอง  เพื่อให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชน     ในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ให้กลับคืนมา
                   ๓.รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาความเสียหาย  ฟื้นฟูจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว  ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จะติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ต่อไป 
                   ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  จะทำหน้าที่ในการส่งเสริม  ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน  โดยติดตามตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และนำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

05/02/2557

เลื่อนขึ้นด้านบน