เมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๘ คณะอนุกรรมการปฏิบัติการยุทธศาสตร์ด้านสิทธิเด็ก สตรี และความเสมอภาคของบุคคล ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้จัดประชุมเพื่อระดมความเห็น แนวทางในการดำเนินการตามพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เรื่องกระบวนการติดต่อร้องเรียน (Optional Protocol to the Convention on the Rights of the Child on a Communications Procedure) ณ ห้องบีบี  โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วยหน่วยงานและองค์กรที่ทำงานด้านเด็ก อาทิ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สภาองค์การพัฒนาเด็กและเยาวชน สำนักงานศาลยุติธรรม ศูนย์อัยการคุ้มครองและสิทธิเด็ก เยาวชน  และสถาบันครอบครัว อัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ UNICEF ประจำประเทศไทย มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ และมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ฯลฯ
          ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กเมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕ และต่อมาได้เข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กอีก ๓ เรื่อง ได้แก่
          ๑. พิธีสารเลือกรับ เรื่อง การขายเด็ก การค้าประเวณีเด็ก และสื่อลามกเกี่ยวกับเด็ก
          ๒. พิธีสารเลือกรับ เรื่อง ความเกี่ยวพันของเด็กในความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ
          ๓. พิธีสารเลือกรับ เรื่อง กระบวนการติดต่อร้องเรียน
          คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะกลไกระดับชาติด้านสิทธิมนุษยชน ตระหนักถึงความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องส่งเสริมและดำเนินการเผยแพร่พิธีสารฯ ให้เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวางและนำไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ  โดยเฉพาะพิธีสารเลือกรับ เรื่อง กระบวนการติดต่อร้องเรียนซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีเมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๕ และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๗ โดยเนื้อหาสำคัญของพิธีสารฯ เกี่ยวกับกระบวนการติดต่อร้องเรียนเป็นการเปิดโอกาสให้เด็ก หรือผู้แทนเด็ก มีส่วนร่วมในการส่งเสริมคุ้มครองสิทธิเด็กอย่างเป็นธรรมในแต่ละประเทศด้วยการเชื่อมโยงกับกลไกของสหประชาชาติ เปิดช่องให้เด็กหรือผู้แทนเด็กขอให้คณะกรรมการสิทธิเด็กช่วยเหลือดูแลกรณีไม่มีการเยียวยาภายในประเทศ
          ทั้งนี้  ที่ประชุมได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง สรุปผลได้ดังนี้
          ๑. เร่งรัดให้กลไกที่ทำงานด้านเด็ก ดำเนินการคุ้มครองสิทธิเด็กที่ถูกละเมิดสิทธิทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และมีกลไกสนับสนุนให้เด็กได้เข้าถึงกระบวนการการร้องเรียนตามพิธีสารฯ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเยียวยาตามกระบวนการทั้งปวงที่มีอยู่ภายในประเทศจนหมดสิ้น หรือล่าช้าโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือไม่น่าจะนำไปสู่การบรรเทาอย่างมีประสิทธิผล
          ๒. ที่ประชุมเห็นสมควรให้มีการสำรวจศึกษากระบวนการร้องเรียน การเยียวยา และจัดทำความเชื่อมโยงการดำเนินการภายในประเทศ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และองค์กรอิสระ ให้มีความชัดเจนมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับเด็ก ผู้ได้รับความเสียหาย รวมทั้งเผยแพร่ต่อสาธารณชนโดยเฉพาะต่อเด็กอย่างทั่วถึง

คณะอนุกรรมการปฏิบัติการยุทธศาสตร์ด้านสิทธิเด็ก สตรี และความเสมอภาคของบุคคล
 

08/07/2558